เมนู

เราเป็นผู้มีจิตเลื่อมใส กล่าวสดุดีพระ-
สยัมภู ผู้ไม่มีใครเสมอเหมือน พระนามว่า
ปทุมุตตระ เพราะผลของกรรมนั้น เราจึงไม่ไป
อบายภูมิถึงแสนกัป
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว. . .คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านอภยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.

จบอภยเถราปทาน

547. อรรถกถาอภยเถราปทาน



พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 7 ดังต่อไปนี้ :-
อปทานของท่านอภยเถระ มีเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม
ชิโน
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระชินวรพุทธ-
เจ้าพระองค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอัน
มากในภพนั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ได้
บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในหังสวดีนคร. ท่านได้เจริญวัยแล้ว เป็นผู้
เล่าเรียนจนจบเวทางคศาสตร์ เป็นผู้ฉลาดในลัทธิสมัยของตนและของ
ผู้อื่น วันหนึ่งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว มีใจเลื่อมใส กล่าว

ชมพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาทั้งหลาย. ท่านดำรงอยู่ในมนุษยโลกนั้นจน
ตลอดอายุ ได้ทำบุญทั้งหลายไว้ จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ไปบังเกิดใน
เทวโลก ท่องเที่ยวไปมาเฉพาะแต่ในสุคติภพเท่านั้น ในพุทธุปบาทกาลนี้
ได้บังเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร ในกรุงราชคฤห์ พระราช-
บิดาและพระราชมารดาได้ทรงขนานพระนามพระราชโอรสนั้นว่า อภยกุมาร.
พระราชกุมารนั้น พอได้เจริญวัยแล้ว ก็ได้เป็นผู้คุ้นเคยกับพวกนิครนถ์ท่อง-
เที่ยวไปด้วยกัน วันหนึ่ง ถูกนิครนถ์นาฎบุตร ส่งไปเฝ้าพระศาสดาเพื่อยก
วาทะขึ้นกล่าวแย้ง ได้ทูลถามปัญหาอันสุขุมละเอียด ได้ฟังคำพยากรณ์อัน
ละเอียดแล้ว มีความเลื่อมใส บวชในสำนักของพระศาสดา ได้ส่งญาณไปตาม
ลำดับกัมมัฏฐานแล้ว ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต.
ท่านครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ระลึกถึงบุรพกรรมของตนได้ เกิด
ความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาล
ก่อนจึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน ดังนี้. คำนั้นทั้งหมด มี
เนื้อความพอจะกำหนดได้โดยง่ายเลยทีเดียวแล.
จบอรรถกถาอภยเถราปทาน

โลมสติยเถราปทานที่ 8 (548)



ว่าด้วยบุพจริยาของพระโลมสติยเถระ

1

[138] ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าพระ-
นามว่ากัสสปะ ผู้เป็น (เผ่าพันธุ์) พรหม มีพระ-
ยศใหญ่ ประเสริฐกว่านักปราชญ์ ได้เสด็จอุบัติ
ขึ้นแล้ว.
ครั้งนั้น เราและสหายชื่อว่า จันทนะ
ได้บรรพชาในพระศาสนา บำเพ็ญกิจพระศาสนา
ที่ท้ายร้านตลาด.
จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เข้าถึงสวรรค์
ชั้นดุสิตทั้งสองคน ครอบงำเทพบุตรที่เหลือใน
ดุสิตนั้น ด้วยการฟ้อน การขับ การประโคม
และด้วยองค์ 10 มีรูปเป็นต้นอันเป็นทิพย์ อยู่
เสวยมหันตสุขตราบเท่าสิ้นอายุ
จุติจากดุสิตนั้นแล้ว จันทนเทพบุตรเข้า
ถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนเราเกิดเป็นโอรสของ
เจ้าศากยะในพระนครกบิลพัสดุ์.
ในคราวที่พระศาสดาผู้นายกของโลก อัน
พระอุทายีเถระเชิญเสด็จมาถึงพระนครกบิลพัสดุ์
เพื่อจะทรงอนุเคราะห์เจ้าศากยะ.


1.ในบางสูตรเป็นพระโลมสกังคิยเถระ.